วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

ในวันที่หมดหวัง กำลังใจสำคัญที่สุด

 
"ในวันที่หมดหวัง กำลังใจสำคัญที่สุด"
 
ผมเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้าผมได้งานหรืออยู่ในช่วงที่มีความสุข
ผมจะมาเขียนเรื่องราวที่ให้กำลังใจกับคนที่กำลังหมดหวังหรือสิ้นหวัง
เพราะช่วงที่หมดหวังหรือสิ้นหวังนั้น กำลังใจมันสำคัญที่สุด
 
ทำไมถึงต้องให้กำลังใจ ?
 
คุณรู้หรือไม่ว่า คนที่กำลังอยู่ในช่วงที่เลวร้าย หัวใจกำลังอ่อนแอ
ความสิ้นหวังจะทำให้คิดอะไรต่างๆ ไปเรื่อยเปลื่อย จนไม่สามารถหยุดได้
ยิ่งถ้าอยู่คนเดียว บางคนอาจนั่งร้องไห้ทั้งคืนเลยก็ได้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้
 
คนเหล่านี้มักต้องการใครสักคน เป็นที่ระบายความรู้สึกของตนเอง
ที่มันอัดอั้นอยู่ในใจ แต่จะหาคนที่ให้ระบายก็ยากเหลือเกิน
บางคนอาจไปโพสในกระทู้ต่างๆ ตามเว็บ บางคนก็เขียนใส่ในกระดาษ
ถึงมันจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคิดมันหายไปหรอก...
 
ดังนั้น เมื่อเขาไม่มีที่ระบาย ก็กลายเป็นความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจ
และจะทำให้เกิดความเครียด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการคิดสั้นได้
 
แล้วจะให้กำลังใจพวกเขาได้อย่างไร ?
 
มันก็พูดยากนะ ว่าจะให้กำลังใจพวกเขาได้อย่างไร
เพราะแต่ละคนก็มีสาเหตุที่แตกต่างกันไป
บางคนก็อาจผิดหวังจากความรัก ครอบครัว ธุรกิจ ชีวิต เพื่อน ฯลฯ
แต่มีคำพูดหนึ่งที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ คือ
 
"สู้ๆ นะ เราเป็นกำลังใจให้"
 
คนที่ได้ยินคำนี้ ผมว่าอย่างน้อยๆ ก็ทำให้เค้ารู้ว่า
เรา ยังเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ยังคอยเป็นกำลังใจให้เค้าเสมอนะ
แม้ในวันที่โลกลืมเขา แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมีเราที่ไม่เคยลืม
 
ดังนั้น ถ้าคุณเห็นใครที่โพสข้อความประมาณว่าสิ้นหวัง หรือหมดกำลังใจ
ก็อย่าไปว่า หรือตอกย้ำเค้าเลย เพราะเค้าก็แค่ต้องการอยากระบายบ้าง
ยิ่งถ้าเราไปโพสว่าเค้า หรือบอกว่า "จะมาโพสทำไมที่นี่"
นั่นเท่ากับว่า เป็นการปิดกั้นการระบายความรู้สึก และตอกย้ำความเจ็บปวดให้เค้าอีก
 
"ปล่อยให้เค้าทำในสิ่งที่เค้าต้องการบ้างเถอะ
เพราะสิ่งที่เค้าทำ อาจเป็นสิ่งเดียวที่เค้าทำได้ ก็ได้"
 
จงอย่าลืมว่า
 
"ในวันที่หมดความหวัง กำลังใจสำคัญที่สุด"
 
สู้ๆ นะครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณจะสิ้นหวังในเรื่องใด
ผมเป็นกำลังใจให้คุณอยู่นะ เพราะผมก็เป็นคนหนึ่ง
ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับคุณ มาสู้ไปพร้อมๆ กันกับผมนะ
 
"สู้โว๊ย!!!"
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

ก้ามปูบิ๊กๆ

 
"ก้ามปูบิ๊กๆ"
 
ผมแอบเห็นเพื่อนแต่ล่ะคนของผม หุ่นดีกันทั้งนั้น
แต่พอหันมามองหุ่นตัวเอง เอ่อ... ผอมยังกับไม้เสียบลูกชิ้นปิ้ง
และดันมีพุงยื่นออกมาอีก อย่าให้เห็นตัวจริงเลย มันไม่น่าดูสักนิด
 
คิดไปคิดมา ก็อยากลองเปลี่ยนหุ่นตัวเองดูบ้าง
แต่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเท่าไร กว่าจะหุ่นดีมีกล้ามกับเขาบ้าง
เผื่อมันจะช่วยดึงดูดสายตา ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสนใจได้บ้าง
 
แต่ถ้าให้ไปเข้าฟิตเนส หรือเสียตังค์ซื้อโปรตีนมากิน
เงินในกระเป๋าก็ไม่ค่อยจะมี สงสัยก็คงต้องพึ่งวิธีพอเพียงบ้างละ
หยิบนู่นหยิบนี่มาใช้แทนที่ออกกำลังกาย
คาดว่าไม่นานอาจจะพอมีกล้ามกับเขาบ้าง
 
"อยากมีกล้าม ก็ต้องฝึกฝน ต้องขยัน"
 
ท่องไว้ในใจ "สู้โว้ย"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

เคยไหม... ใช้เสียงเพลงบอกความรู้สึก

 
"เคยไหม... ใช้เสียงเพลงบอกความรู้สึก"
 
ความรู้สึกที่มันอยู่ข้างใน บางทีก็ไม่สามารถบอกออกมาได้ตรงๆ
ไม่สามารถสื่อออกมาได้ด้วยคำพูด เพราะถ้าฟังอาจจะดูว่ามันเว่อร์เกินไป
แล้วถ้าพูดไม่ได้ จะสื่อความรู้สึกออกไปยังไงล่ะ?
 
มีคนบอกว่าการกระทำ มันก็สามารถบอกความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูด
แต่ถ้าในช่วงที่เราแอบรักใครสักคน ถ้าเราเดินไปจับมือเค้า
เค้าจะไม่มองว่าเราเป็นคนโรคจิตหรอ นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าคิดนะ
แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำยังไงละ พูดไม่ได้ กระทำก็ไม่ได้
 
มีอีกทางที่สามารถจะสื่อออกไปให้เธอได้รู้ได้
ทางนั้นก็คือ สื่อออกไปเป็นบทเพลงนั่นเอง
เพลงบางเพลง มีความรู้สึกที่เราต้องการบอกให้เค้ารู้อยู่
ซึ่งเหมือนกับว่า เพลงๆ นั้น แต่งมาเพื่อเรารึเปล่า ทำไมมันตรงจัง
 
จากประสบการณ์ตรง ผมก็เคยใช้เพลงในการบอกความรู้สึกนะ
แต่ผลที่ได้ก็ทำให้เค้ารู้ว่าเราชอบเค้า แต่เค้าก็ไม่ได้ชอบเราหรอก
เพราะเค้ามีคนที่ชอยอยู่แล้ว แต่เค้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไรผมนะ
แถมยังมาคุยหรือเล่มกับผมมากขึ้นด้วย
 
ผมว่าบางที ก็ใช้เพลงบอกรัก มันก็โรแมนติกดีนะ
ร้องเพลงให้เค้าฟัง หรือส่งเพลงให้เค้าฟัง
ถ้าความรู้สึกมันตรงกัน คุณก็อาจจะได้เป็นเป็นแฟนกับเค้าก็ได้
แต่ถ้ามันไม่ใช่ ก็ยังดีนะ ยังดีที่เราได้บอกเค้า ดีกว่าเราไม่ได้บอกเค้าเลย
 
"ลองใช้บทเพลงสื่อความรู้สึกดูสิ
บางทีอาจจะง่ายกว่าเดินเข้าไปแล้วบอกรักตรงๆ ก็ได้"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

เหนื่อยใจแค่ไหน... สุดท้ายก็ยังเป็นของเธอ

 
"เหนื่อยใจแค่ไหน... สุดท้ายก็ยังเป็นของเธอ"
 
เรื่องของความรัก มีมุมมองให้เขียนมากมายหลายเรื่อง
เพราะความรักนั้น มันไม่เคยมีมุมมองที่ตายตัว
หลายคนอาจเคยผ่านความรักมามากมายหลายรูปแบบ
หลายครั้งที่ได้เจอ ก็มักจะได้เรื่องราวเก็บมาเป็นความทรงจำส่วนหนึ่ง
ซึ่งมันก็ไม่เคยจางหายไป ยิ่งเรื่องไหนยิ่งเจ็บ เรื่องนั้นยิ่งจำ
 
แต่สำหรับเรื่องที่จะเขียนต่อไปก็คือ "การทะเลาะกัน"
ช่วงแรกๆ ที่คบกันของคู่รักหลายๆ คู่ อาจจะมีความเห็นที่คล้ายๆ กัน
ก็เลยไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเท่าไหร่ หรืออาจจะมีบ้าง แต่ก็ยอมๆ กันไป
แต่พอหมดช่วงโปรโมชั่นเมื่อไหร่ นั่นแหล่ะ ปัญหามันมักจะเกิดขึ้นมาทันที
 
เรื่องบางเรื่องอาจจะเล็กน้อย แต่มันก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
และพอเกิดเรื่อง ก็ต้องมาง้องอนกัน ซึ่งถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใจอ่อน
เรื่องก็จะจบได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ายังแข็งข้อต่อกันทั้งคู่
ก็คงต้องเหนื่อยกับการง้องอนกันต่อไปอีกนานไม่จบไม่สิ้น
 
แล้วถ้าถามว่า "ไม่เหนื่อยบ้างหรอ ที่ต้องทะเลาะกันอยู่แบบนี้"
ผมว่า คำตอบที่ได้จากคนทั้งสองคน ก็น่าจะเป็น "เหนื่อย"
แต่จะเหนื่อยยังไงก็ตาม เค้าทั้งสองคนก็ยังคงเป็นของกันและกันอยู่ดี
 
มีคำกล่าวที่ว่า "ยิ่งทะเลาะกัน ยิ่งรักกัน ยิ่งเข้าใจกัน"
มันก็อาจจะเป็นจริงก็ได้มั้ง ถ้ามองในแง่ที่ว่า
พอเรารู้ว่าเค้าไม่ชอบให้เราทำอะไร เราก็จะไม่ทำสิ่งนั้น
รวมถึง ถ้าเค้ารู้ว่าเราไม่ชอบอะไร เค้าก็คงจะไม่ทำเหมือนกัน
 
แบบนี้สิ ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ยืดยาว ความรักมันก็ต้องมียอมกันบ้าง
บางที ถ้าความผิดเล็กๆ น้อยๆ ที่เค้าได้ทำ ถ้ามันพอให้อภัยได้
ก็ให้อภัยเค้าเถอะ เค้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับตัวเราจนเกินไป...
 
บางที คนรักของเราอาจคิดในใจเวลาที่ทะเลาะกันว่า
 
"ถึงเธอจะทำให้เหนื่อยใจแค่ไหน
แต่ฉันก็ยังเป็นของเธอเสมอนะ"
 
ก็ได้
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

หายใจ...ไปวันๆ

 
"หายใจ...ไปวันๆ"
 
"ในชีวิตคนทุกคน ย่อมจะมีช่วงชีวิตเลวร้าย
ขอใครเพียงสักคน อยู่คอยช่วยเป็นกำลังใจ"
เนื้อเพลงท่อนหนึ่งจากเพลง ห่วงหา - มัม ลาโคนิค
 
พอฟังเพลงนี้ไปสักพัก ไม่รู้ว่าฟิลลิ่งมันมาจากไหน
นั่งคิดตามเนื้อเพลงตั้งแต่ต้นจนจบ เอ่อ... มันแต่งมาเพื่อนเรารึเปล่าว๊า
 
ช่วงนี้ตั้งแต่เรียนจบมา ก็รู้สึกโหวงๆเหวงๆ หาคนคุยด้วยยากว่าตอนเรียนอีก
ไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด กินข้าวคนเดียวมาหลายเดือนละ
คนนี้เดินผ่านไป คนนั้นเดินผ่านมา แต่ก็ไม่เคยแวะมาทักสักคน
เหมือนเราเป็นมนุษย์ล่อยหน ที่ไม่มีใครมองเห็นซะงั้น
 
ชีวิตหลังจบการศึกษา มันรู้สึกโดดเดี่ยวยังไงไม่รู้เนอะ
คนที่เคยพบหน้ากันเกือบทุกวัน ก็หายไป
หอพักที่เคยมีเพื่อนมาเล่นกันเต็มห้อง ก็ว่างเปล่า มีเรานั่งอยู่คนเดียว
ร้านเกมส์ที่เคยไป ตลาดนัดที่เคยเดิน ห้องสมุด ร้านหนังสือ สวนสาธารณะ
ตอนนี้ถ้าไป ก็คงเหงาน่าดูเลย และคงเหงามากๆ ด้วย
 
คิดถึงเพื่อนๆ อ่ะ คงไม่มีโอกาสได้เจอกันแบบครบองค์ประชุมอีกละ
รู้อย่างนี้ ตอนช่วงที่อยู่ด้วยกัน น่าจะทำอะไรที่สร้างความทรงจำเยอะๆนะ
จะได้มีเรื่องราวให้คิดถึงกันตลอด มีรูปภาพคอยย้ำเตือน
แต่ตอนนี้แค่คิด มันก็คงสายไปแล้ว...
 
ยิ่งตอนนี้ เหมือนกับหายใจทิ้งไปวันๆ
ตื่นเช้าไปทำงาน กับสิ่งรอบข้างที่ไม่คุ้นชิน
กลับจากที่ทำงานก็ล้มตัวลงนอน เปิดคอมเช็คนู่นเช็คนี่
โพสบทความที่อยากโพส แอบดีใจเมื่อเห็นคนกดแชร์ กด Like
ได้เท่านี้จริงๆ นี่แหล่ะมั้งชีวิตคน มีแรงก็ต้องสู้กันต่อไป
 
"มัวแต่นั่งคิดถึงอดีต แล้วพรุ่งนี้จะมีอนาคตรึเปล่า?" 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

ความทรงจำกับกองหนังสือ

 
"ความทรงจำกับกองหนังสือ"
 
จากคนๆ หนึ่ง ที่มีเงินเก็บไม่กี่บาท
พยายามรวบรวมเงินเพื่อซื้อหนังสือที่ชอบสักเล่ม
ซึ่งนานมาก กว่าจะได้สักเล่มหนึ่ง
จนปัจุจุบัน มีหนังสือที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินเก็บของตัวเองหลายเล่ม
แต่ละเล่มล้วนมีความทรงจำมากมายที่บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนั้น
 
หนังสือบางเล่มถึงจะมีราคาไม่กี่สิบบาท
แต่เมื่อมันมีรอยฉีกขาด มันก็เหมือนกับรอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับร่างกายคนซื้อ
เพราะหนังสือมันมีคุณค่าต่อเจ้าของมันมากยังไงล่ะครับ
 
หลายคนอาจเคยเห็นเพื่อนของตัวเองที่รักและหวงหนังสือของตัวเองมาก
ถึงขนาดไม่ยอมให้เพื่อนแตะเลย เพราะกลัวว่าเพื่อนจะทำหนังสือยับหรือขาด
 
หนังสือบางเล่ม ที่ซื้อมาก็เพราะว่า ชอบทัศนคติของคนเขียน
หรือบางที เราก็ชอบที่ตัวคนเขียนเองด้วย (อันนี้ส่วนตัวสักนิดครับ)
และหนังสือนี่แหล่ะ ก็เหมือนโลกอีกใบที่ให้เราค้นหา
 
เชื่อไหมครับว่า ถ้าเราอ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งถึงสองรอบ
แต่ละรอบที่อ่าน จะได้ข้อคิดที่ต่างกัน ไม่เชื่อก็ลองอ่านดูนะครับ
 
"ผมมีความสุขทุกข์ครั้งที่ได้นั่งอยู่ข้างๆ
กองหนังสือที่ตัวเองได้ซื้อมา"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

Alone... คนเดียว

 
"Alone...คนเดียว"
 
บนเส้นทางที่เดินผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อาจจะเคยเดินจับมือกับใครมาบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือไป
และสุดท้ายถนนเส้นนี้ ก็มีแค่เพียงตัวเราเอง ที่ยังคงก้าวเดินต่อไป
 
คงไม่มีใครอยากที่จะก้าวเดินไปกับเรา โดยที่เราไม่มีอะไรติดตัวเลย
ไม่มีสิ่งของที่จะอำนวยความสะดวก ช่วยลดระยะทาง หรือลดระยะเวลา
แล้วใครล่ะ ที่จะมาสนใจ มันก็คงจะไม่แปลกถ้าถนนเส้นนี้ไม่มีใครมาเดินด้วย
 
บ่อยครั้งที่ต้องเดินคนเดียว นั่งพักคนเดียว และมองดูคนอื่นเขาเดินไปด้วยกัน
พอลองย้อนมองดูตัวเอง ก็แอบน้อยใจไม่ได้ ที่เราต้องเป็นแบบนี้
 
ถ้าถามว่า เหนื่อยไหม ? ท้อไหม ? ก็ตอบเลยว่า "มว๊ากกกกกกกกกก"
แต่ถึงจะเหนื่อยและท้อ แต่ก็จะก้าวเดินต่อไปไม่หยุด
แม้ว่ามันจะต้องเจอกับอะไรอีกก็ตาม ก็จะทนสู้ต่อไป
 
"แม้จะก้าวเดินด้วยตัวคนเดียว...
แต่ก็ยังมีความหวังว่า คงมีใครบางคนที่รอเราอยู่ปลายทาง" 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

เพื่อน... คนข้างๆ

 
"เพื่อน... คนข้างๆ"
 
ในเวลาที่เราเศร้าสุดขีด หมดกำลัง หมดความหวัง ท้อแท้
ไม่เหลือแม้แต่กระทั่งแรงที่พยุงให้เดินไปต่อ
ช่วงเหล่านั้น ช่างเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจเป็นอย่างมาก
เป็นช่วงที่ต่ำสุดของชีวิตจริงๆ เป็นใครก็ไม่อยากจะเจอ...
 
แต่แล้วช่วงเวลานี้แหล่ะ เป็นช่วงวัดใจตนและคนข้างๆ
วัดใจตัวเราเองว่า เรามีความอดทนและเข้มแข็งได้ขนาดไหน
วัดใจคนข้างๆ ว่าจะมีสักกี่คนที่ยื่นมือมาคอยช่วยเหลือเรา
 
และทุกครั้งที่ได้เจอปัญหานี้ นอกจากคนในครอบครัวที่คอยเป็นกำลังใจแล้ว
ยังมีคนข้างๆ อีกคน ที่คอยยื่นมือมาคอยช่วยเหลือ
ซึ่งคนๆ นั้นก็ไม่ใช่ใคร เขาคือ "เพื่อน" ที่ไม่เคยทิ้งเรานั่นเอง
 
หลายคนอาจจะมีเพื่อนเยอะมากมายก็จริง
แต่จะมีเพื่อนสักกี่คน ที่คอยช่วยเหลือเราอย่างเต็มกำลัง โดยไม่บ่นสักคำ
เชื่อว่าในหลายร้อยคนที่เป็นเพื่อนเรานั้น มีไม่ถึง 5 หรือ 10 % เลย
 
และ 5 หรือ 10 % นั้นแหล่ะ ที่เราควรจะรักมันให้มากๆ
ดูแลกันให้ดีๆ เพื่อนเหล่านั้นแหล่ะ ที่เรียกได้ว่า "เพื่อนแท้"
ส่วนเพื่อนที่เหลือนั้น อาจเป็นเพื่อนธรรมดาทั่วไป
ที่แค่ผ่านมาให้รู้จัก ทักกัน แล้วก็จากไปก็ได้
 
"อย่าลืมดูแลคนข้างๆ ที่คอยให้กำลังใจเราอยู่เสมอ
เพราะคนๆ นั้น แม้เราจะอยู่ในช่วงต่ำสุดสักเท่าไร
เค้าคนนั้นก็จะไม่มีวันทิ้งเราเหมือนคนอื่นแน่นอน"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

รอ... เพื่ออะไร?

 
"รอ... เพื่ออะไร?"
 
ใครคนหนึ่งจากไปโดยบอกให้เรารอ
แล้วถ้าเรายังรออยู่ เค้าจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า
คงมีหลายคำถามที่ต้องการคำตอบจากคนที่รอแน่นอน
 
ถามว่าจะติดต่อกลับมาบ้างหรือเปล่า หลังจากที่ห่างกันไปนานๆ
จะโทรมาบ่อยแค่ไหน หากไม่ได้พบหน้ากันเลย
จะคิดถึงกันมั่งหรือเปล่า หากเจอความเหงาที่ต้องพบเจอ
และจะเป็นยังไงต่อไป หากวันหนึ่ง ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม
 
ไม่รู้ว่าการรอครั้งนี้ จะเป็นการรอที่คุ้มค่า หรือเป็นการรอที่ไร้ค่ากันแน่
เธอจะพอให้คำตอบที่แน่ชัดได้หรือเปล่า ว่าความสัมพันธ์ของเราจะเป็นแบบไหน
เธอจะให้คำตอบได้หรือเปล่า ว่าที่ฉันรอ รอไปเพื่ออะไร...?
 
"ถ้าคำตอบที่ได้มันชัดเจน ฉันจะตั้งใจรอเธอต่อไป...แน่นอน"
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

อยากกลับไปวัยเรียน

 
"อยากกลับไปวัยเรียน"
 
เคยคิดไว้ลึกๆ ว่า ช่วงเวลาที่กำลังเรียนนั้น
เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากกว่าปัจจุบัน
เพราะช่วงทำงานนั้น มักจะมีเรื่องเครียดๆ เข้ามาตลอดเวลา
โดยไม่มีเวลาให้พักเหมือนช่วงที่อยุ่ในวัยเรียนเลย
 
และอาจมีเหตุผลอีกมากมาย ที่บอกได้ว่า...
ตอนเรียนนั้นดีกว่าตอนทำงานยังไง
 
ถ้าพูดถึงตอนเรียน ก็คงอดพูดถึงเพื่อนไม่ได้
ช่วงเรียนไปไหนไปกัน ทำนู่นทำนี่ด้วยกันตลอด
แต่พอมาเข้าสู่ช่วงทำงานนั้น เพื่อนบางคนก็เริ่มห่างหายไป
เนื่องจากงานที่ทำนั้น คนละบริษัท งานคนละงาน ช่วงเวลาที่ทำไม่ตรงกัน
ทำให้นานๆ ที ถึงจะได้เจอกันสักครั้ง อย่างเช่น งานแต่ง หรือไม่ก็งานบวช
 
แต่ในชีวิตจริงนั้น ก็คงเลือกไม่ได้หรอกเนอะ
อยากกลับไปยังไง ก็ไม่มีทาง เราไม่มีไทม์แมชชีนให้ย้อนเวลา
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ทำปัจุจบันให้มันดีละกัน
 
แปลกนะ ตอนทำงานอยากกลับไปเรียน
แต่ตอนที่เรียนนั้นอยากทำงาน
หาความพอดีให้กับตัวเองไม่ได้เลย T_T
 
"พยายามหาจุดตรงกลางให้เจอ แล้วเราจะมีความสุขกับมัน"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

อ้อมกอดจากคนที่รัก

 
"อ้อมกอดจากคนที่รัก"
 
ในช่วงเวลาที่เหน็บหนาว ช่วงเวลาที่เหงาใจ
และช่วงเวลาที่ไม่มีใคร ก็อยากได้อ้อมกอดจากใครสักคน
มาให้ความอบอุ่นกับหัวใจ
 
มือสองมือที่สัมผัส อ้อมแขนที่กอดรัดด้วยความรู้สึก
ไออุ่นที่ได้จากอุณหภูมิของร่างกาย จังหวะการเต้นของหัวใจ
มันสัมผัสได้ เมื่อมีใครสักคนได้ให้กัน
 
มีคนกล่าวไว้ว่า "อ้อมกอด คือ เสื้อที่ให้ความอบอุ่นที่สุด"
ผมก็ว่า มันจริงนะ ถ้าได้กอดด้วยความรู้สึกกับใครสักคน
 
ในวันนี้ที่คุณมีคนที่รักอยู่แล้ว อย่าลืมกอดเพื่อให้ความอบอุ่นแก่กันนะครับ
เพราะว่าวันหนึ่ง ถ้าคุณไม่มีเค้าแล้ว ความเหน็บหนาวจะมาเยือนทันที
แล้วถ้าคุณอยากกอดเค้าอีก คุณก็ทำไม่ได้เสียแล้ว...
 
ส่วนคนที่ยังไม่มีคนรัก (เหมือนกับผม T_T)
ลองกอดตัวเองสัก 2-3 นาที คุณจะรู้ว่า อ้อมกอดที่ได้จากตัวเองนั้น
ก็สามารถให้ความอบอุ่นได้เหมือนกัน อาจจะน้อยกว่าที่ได้จากใครบางคน
แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้รับอ้อมกอดจากใครเลยนะ
 
"ความอบอุ่นที่ส่งตรงมาจากหัวใจ
ผ่านอ้อมกอดของเธอนั้น... ฉันรับรู้มันได้นะ"
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

ขอแอบมองอยู่ตรงนี้ต่อไป...

 
"คนรู้จัก ที่ไม่เคยได้สนิท"
 
เคยได้ยินคำนี้กันหรือเปล่าครับ ?
 
ในความหมายของผมก็คือ คนที่เรารู้จัก รู้ชื่อ รู้ทุกกิจกรรมที่เค้าทำ
แต่เราไม่เคยที่จะได้เข้าไปทำความรู้จัก และไม่เคยได้พูดคุยกับเค้าเลย
พูดง่ายๆ ก็คือ เราเป็นคนแปลกหน้าของเขา แต่เขาคือคนชัดเจนของเรานั่นเอง
 
สิ่งที่เราทำได้เมื่อเจอเค้าต่อหน้าก็คือ ได้แค่แอบมองเค้าจากมุมๆ หนึ่ง
มุมที่อาจจะมีหลายๆ คนแอบมองเค้าอยู่เหมือนกัน
แต่มุมๆ นี้ก็แปลกดีนะ เพราะเป็นมุมที่เขาไม่เคยได้มองมาเลยสักครั้ง
นี่ถ้าเป็นการเล่นซ่อนแอบ เขาก็คงหาเราไม่เจอแน่ๆ เลยอ่ะ
 
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะไม่เคยมองมาเลย
แต่เราก็จะขอแอบมองเขาต่อไปแล้วกัน
คอยมองพฤติกรรมของเขา คอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ห่างๆ
แม้เขาจะไม่เคยรู้ว่ายังมีเราที่คอยแอบมองเค้าอย่างนี้
แต่สักวันหนึ่ง (มั้ง) ที่เขาอาจเผลอตา เหลือบมองมาทางนี้บ้าง...
 
"มุมนี้ที่เธออาจมองไม่เห็น
แต่เป็นมุมที่ฉันเห็นเธอชัดเจนเลยนะ"
 
-------------------------------------------------------------------------
แวะไป Follow กันได้นะครับ

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ดาวดวงที่เราสร้างมันไว้ด้วยกัน

"เพื่อน"
 
คุณคิดว่าคำๆ นี้ มันมีความหมายว่าอย่างไร ?
ผมว่าหลายๆ คน คงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วล่ะ
แต่คำตอบของแต่ละคน คงมีความหมายต่างกัน
 
สำหรับผมแล้ว คำว่าว่าเพื่อนของผม คือ "องค์ประกอบ"
งงล่ะสิ ว่าทำไม ผมถึงให้ความหมายมันว่าองค์ประกอบ
นั่นก็เพราะว่า ถ้าไม่มีพวกมัน อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตก็คงไม่ไม่เกิด
เพราะเพื่อนนี่แหล่ะ ที่คอยเสริม เติม แต่ง จนมีเรื่องราวเกิดขึ้นในชีวิตมากมาย
 
ก็เหมือนจิ๊กซอร์รูปดาวที่ผมวาดขึ้นในรูปนั่นล่ะ
มันคือ ภาพวาดที่เกิดจากเรื่องจริง เราสานต่อความสัมพันธ์แบบเพื่อน
โดยที่จะไม่ทิ้งกัน และจะคอยเป็นกำลังใจให้กันและกันต่อไป
 
"วันใดที่เพื่อนทุกข์ ท้อ หรือหมดกำลังใจ วันนั้นเราก็จะยังยิ้มให้กันเสมอ"
 
แม้ตอนนี้เราจะแยกกันไปทำตามฝันของตัวเอง
แต่สักวันหนึ่งเราก็จะกลับมารวมตัวกันใหม่
เหมือนวันเก่าๆ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน
 
"เพื่อนกันตลอดไป"

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

หยิบความรู้สึกจาก Youtube มาแชร์ [ภาค 15]

สวัสดีวันหยุดครับ วันนี้ฝนตั้งเค้ามาตั้งแต่เช้าเลย ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
วันนี้ขอนำบทความจาก youtube มาแชร์ให้อ่านกันอีกครั้ง
ให้หลายๆ คนที่ติดตาม Bloger ของผมได้อ่านกัน
ใครที่ชอบก็กดติดตามหรือกดแชร์กันด้วยนะครับ
ขอบคุณเจ้าของบทความทุกท่านด้วย ทุกข้อความโดนใจผมมากครับ
  
 
อย่ารั้งเขาเลย ถ้าเขาจะไป
ก็ในเมื่อ "คนมันหมดใจ"
ห้ามให้ตาย "ยังไง" มันก็ไม่ยอมอยู่

@อาพัตสร

 
ต่อให้ฉันเป็นรักแท้ มันก็ต้องแพ้แฟนเก่าของเธอ
@วัชรพล

 
เรามันก็เเค่ "องค์ครัก" ที่คิดจะพิทักษ์เจ้าหญิง
เเต่น่าเสียดายเพราะความเป็นจริง "อันเจ้าหญิงต้องคู่กับเจ้าชาย"

@Alalams

 
ฉันเชื่อว่า เธอเดินบนดินไปด้วยกันได้
แต่ถ้ามันลำบาก... ก็อย่าเลย

@NIWAT

 
"ความรัก" ไม่เคยเปลี่ยนคุณค่า
"เวลา" ไม่เคยเปลี่ยนใคร
"คน" ต่างหากที่เปลี่ยนไป
เพราะถ้าคน "หมดใจ" อะไรก็ "เปลี่ยนแปลง"

@ปฐวี


 
เสียเหงื่อให้กับกีฬา ดีกว่าน้ำตาให้ผู้หญิงหลายใจ
@endoo416
 
ความรักอาจสร้างคน 2 คนขึ้นมารักกัน
เพียงแต่บางสิ่งนั้น ไม่ได้สร้างมาเพื่อคู่กัน

@Jaresak

 
บางครั้ง "มือที่สาม" ก็ช่วยให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเอาแต่ใจ
แต่ส่วนใหญ่มักจะ "สายไป" และมาคิดได้เมื่อตอนที่ "เขาไม่อยู่แล้ว"

@Thabeer

 
รักแท้แพ้แบงพัน
@woramet

 
รักแท้ไม่ใช่แค่แพ้คำว่าไม่รัก แต่ตังก็มีส่วนเกี่ยวสินะ 
@Ronnachai


 
ความรักเป็นสิ่งมีค่า ถ้าเรารู้จักมองมันในมุมกลับ แล้วขยับมุมมอง
@hotzaza
 
ความฝันบางความฝัน ก็มีไว้เพื่อให้เราผ่าฟันให้เป็นความจริงๆ
@Comming Zoon
 
สิทธิ์ของใจรักใครนั้นไม่ผิด ขอแค่คิดรักสักนิดจะผิดไหม
ฉันรักเธอก็ไม่ผิดสิทธิ์ของใจ เธอรักใครก็ไม่ผิดสิทธิ์ของเธอ

@วันวิสา

 
ถ้าสามารถ "ย้อนเวลา" กลับไปได้ "ก็คงจะดี"
จะได้กลับไป "เริ่มต้นใหม่" เริ่มจากตรงที่ "เราพบกัน"
เปลี่ยนจาก "ได้พบได้คุย" เป็นเพียงแค่ "คนที่เดินสวนกัน" ก็พอ

@Difttokyo
 
ทำไมกูถึงไม่มีสิทธิ์ ในเมื่อบัตรประชาชนกูก็มี
@kwang


ความรักรู้ว่า "เจ็บ" แต่ทำไม "ใจ" ต้องการ
@ปฏิภาณ
 
คนบางคน ผ่านมาให้รักไม่ได้เกิดมาเพื่อคู่กัน
@Chatpon
 
ตอนแรกก็ไม่มีสิทธิ์หรอก
แต่พอสอบติดครูเท่านั้นแหละ (ศิษย์) เต็มเบย

@Amorn
 
"ความรัก" ก็เหมือนหนังสือนะ
บางเล่มหนา เเต่ว่างเปล่า บางเล่มบาง เเต่กลับกินใจ
เเละกว่าเราจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
ก็คือตอนเราอ่านมัน ''จบไปเเล้ว''

@Moo
 
เราอาจจะไม่มีสิทธิ์ไปรักเค้า
แต่เราสามารถดูแลและเป็นห่วงไกลๆ ได้ไม่ใช่หรอ

@PonGPanG

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

อุปนิสัยดีๆ ตามวันเกิด

 
 
คนวันอาทิตย์
เป็นคนมีบุคลิกสง่าผ่าเผย น่าเคารพนับถือ มั่นใจในตัวเอง รักความก้าวหน้า
มีสติปัญญาเฉียบแหลม รู้จักการวางตัวในสังคมจึงเป็นคนมีเสน่ห์ มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน


วันจันทร์
เป็นผู้มีรูปสมบัติงดงามทั้งชายและหญิง กิริยามารยาทเรียบร้อย พูดจามีเหตุผล
เป็นคนมีความมานะพยายาม ความคิดกว้างไกล และจริงใจ


วันอังคาร
เป็นผู้ที่มีจิตใจกล้าหาญ ทรหดอดทน จิตเป็นกุศลศรัทธา ไม่ค่อยมีโรคเบียดเบียนมีมิตรมาก
กล้าเผชิญความลำบาก มีความสบายในบั้นปลายชีวิต

วันพุธ
เป็นผู้มีเสน่ห์ หนักแน่น มีความเพียรดี มีความรอบรู้ในกิจการงานทุกอย่าง
เข้ากับผู้อื่นได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ มักจากสถานที่เกิดเดิมไปได้รับความเจริญในที่อื่น


วันพุธ(กลางคืน)
เป็นผู้มีบุคลิกน่าเกรงขาม มีอำนาจบารมี ใจนักเลง
ชีวิตแม้จะลำบากหลายครั้ง แต่ก็ตั้งตัวได้หลายหน มีเพื่อนฝูงเยอะ หาเงินได้คล่อง


วันพฤหัสบดี
เป็นผู้มีความรอบรู้และมีสติปัญญา สนใจศึกษาหาความรู้
เป็นคนโอบอ้อมอารี กตัญญูต่อผู้มีคุณ ผู้ใหญ่เกื้อหนุนให้ความอุปการะช่วยเหลือ


วันศุกร์
เป็นผู้ที่มีจิตใจใฝ่สูง มีความทะเยอทะยาน ขยันอดทน จิตใจซื่อตรง
มีเมตตา ชอบสนุกสนาน พูดจาคมคาย เบื้องต้นชีวิตแม้จะขัดสนลำบากอยู่บ้าง
แต่บั้นปลายชีวิตจะสุขสบาย

วันเสาร์
เป็นผู้มีบุคลิกหนักแน่นน่าเกรงขาม มีอำนาจบารมีในตัว มีความคิด
ความตั้งใจสูง ทำอะไรทำจริง เชื่อมั่นในตัวเอง แต่มีความรอบคอบ
มีเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา หาเงินได้คล่อง


ที่มา : คู่มือสะเดาะเคราะห์ แก้กรรม


วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

36 แผนที่ชีวิต ข้อคิดจากในหลวง

สวัสดีครับ วันนี้แวะมาดึกสักนิดคงไม่ว่ากันนะ
วันนี้ผมเอาข้อคิดดีๆ ที่ได้จากฟอร์เวิร์ดเมลมาฝากกัน
บางคนอาจจะเคยอ่านแล้ว หรือบางคนอาจจะยังไม่เคยอ่านก็ไม่เป็นไรครับ
เรามาอ่านใหม่ พร้อมๆ กันดีกว่าเนอะ ^_^
 

1 ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกจานอย่างจริงใจ
 
2 อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก "ปัญญา" และ "ความกล้าหาญ"
 
3 "เพื่อนใหม่" คือของขวัญที่ให้กับตัวเอง
ส่วน "เพื่อนเก่า"/ "มิตร" คืออัญมณีที่นับวันจะเพิ่มคุณค่า
 
4 อ่านหนังสือ ธรรมะ ปีละเล่ม
 
5 ปฏิบัติต่อคนอื่นเช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา
 
6 พูดคำว่า "ขอบคุณ" ให้มากๆ
 
7 รักษา "ความลับ" ให้เป็น
 
8 ประเมินคุณค่าของการให้ "อภัย" ให้สูง
 
9 ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี
 
10 ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิและรู้แก่ใจว่าเป็นจริง
 
 
 
11 หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่
 
12 เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนักคิดเสมอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว
 
13 อย่าถกเถียงธุรกิจภายในลิฟต์
 
14 ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน
 
15 อย่าหยิ่งหากจะกล่าวว่า "ขอโทษ"
 
16 อย่าอายหากจะบอกใครว่า "ไม่รู้"
 
17 ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง
 
18 เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
 
19 การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวยเป็นต้นทางแห่งความไม่ประมาท
 
20 คนไม่รักเงิน คือคนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต
 
 
21 ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อนคือผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี
 
22 ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำงานเลยสักวัน ทุกวันเป็นวันสนุกหมด
 
23 จงใช้จุดแข็ง อย่าเอาชนะจุดอ่อน
 
24 เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ
ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจใน สิ่งที่เราพูด
 
25 เหรียญเดียวมี 2 หน้า ความสำเร็จ กับ ล้มเหลว
 
26 อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่งๆ เกิดขึ้นล้วนตามใจตัวเองทั้งสิ้น
 
27 ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน
 
28 อย่าดึงต้นกล้าให้โตไวๆ (อย่าใจร้อน)
 
29 ระลึกถึงความตายวันละ 3 ครั้ง ชีวิตจะมีสุข มีอภัย มีให้
 
30 ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อๆไปก็ผิดหมด 
 

 
31 ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนดวันเวลาแล้วเสร็จ
 
32 จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด
 
33 ดาวและเดือนที่อยู่สูงอยากได้ต้องปีน "บันไดสูง"
 
34 มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิตจงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ
 
35 หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม
 
36 ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

เคยแอบชอบใครมั่งรึเปล่า?

 
ขอถามสักนิดก่อนจะเริ่มเรื่องละกันนะครับ แค่อยากถามกับผู้อ่านทุกๆท่านว่า
"คุณเคยแอบชอบใครสักคนกันมั่งรึเปล่า?"
ที่ถามนี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ คือผมกำลังแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งอยู่
แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าผมชอบ ก็เลยอยากมาเขียนบล๊อกให้อ่านกันสักนิด
ก็ถือว่า เป็นช่วงเวลาของคนมีความรักนั่นแหล่ะครับ
ถ้าในวันต่อๆ ไป ได้กลับมาอ่านย้อนหลังก็อาจจะนึกพี่เค้าก็ได้
 ------------------------------------------------------------------
เวลาที่เรามีความรัก โลกมักเต็มไปด้วยสีชมพู มีคนเคยบอกผมไว้อย่างนั้นครับ
ซึ่งผมก็เคยเจอมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ของผมไม่ได้เป็นสีชมพูน่ะสิ ฮ่าๆ
พอได้มามีอีกครั้งมันก็เป็นแบบเดิมนี่แหล่ะครับ แต่มันจะออกสีชมพูช้ำๆ หน่อย
เพราะยังมีประสบการณ์แอบรัก แอบชอบจากตอนเด็กมาคอยเตือนสติอยู่ตลอด
  ------------------------------------------------------------------
รุ่นพี่ที่ผมแอบชอบก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ เป็นรุ่นพี่ในคณะนี่แหล่ะ แต่คนละสาขา
ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะครับ เพราะผมจะออกแนวเอ๋อๆ ติงต๋อง ติสๆ นิดนึง
ตามประสาคนมีโลกส่วนตัวสูงอ่ะครับ (เพื่อนๆ ชอบบอกอย่างนั้นอ่ะ)
  ------------------------------------------------------------------
จนวันนึงผมก็แอด Facebook พี่เค้าไป โดยที่ผมไม่รู้จักพี่เค้าหรอก
แล้วพี่เค้าก็ไม่ได้รู้จักผมด้วย พูดง่ายๆ คือ "ผมไม่รู้จักเค้า และเค้าไม่รู้จักผม"
แล้วผมก็แอบส่อง Facebook ของพี่เค้าประจำ เห็นกิจวัตรประจำวันที่พี่เค้าทำตลอด
เพราะพี่เค้าชอบอัพรูปลง Faecbook เป็นประจำ ซึ่งผมก็ส่อง Facebook พี่เค้ามานานเป็นปี
  ------------------------------------------------------------------
และก็มาถึงเมื่อไม่นานมานี้ครับ ผมก็ได้ไปตามอินสตาร์แกรมพี่เค้าอีกรอบ
เพราะผมก็เพิ่งมีเป็นของตัวเอง ตอนแรกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอกครับ ก็กดติดตามพี่เค้าไป
พอพี่เค้าโพสภาพ เราก็เข้าไปกดตรงที่เป็นรูปหัวใจให้พี่เค้าตลอดทุกรูป (แค่นั้นเอง)
  ------------------------------------------------------------------
แล้วก็เป็นผลครับ O,.O พี่เค้ากดติดตามผม หลังจากที่ผมไปกดรูปหัวใจให้พี่เค้าไม่นาน
ช่วงนั้นตื่นเต้นโคตรๆ อารมณ์ประมาณว่า เตะบอลเข้าประตูไป 10 ลูก
แต่สุดท้ายก็แค่นั้นล่ะครับ ติดตามกันไปติดตามกันมา ส่องกันไปส่องกันมา ฮ่าๆ
  ------------------------------------------------------------------
และแล้ววันที่ได้คุยกับพี่เค้าก็มาถึงครับ ผมขึ้นสถานะเกี่ยวกับคนโสดไป
เพราะช่วงนั้น เรื่องภาษีคนโสดกำลังมาแรงครับ ก็เลยขึ้นสถานะสักหน่อย
ขึ้นไปไม่นาน พี่เค้าทักมาในข้อความครับ ประมาณว่า
แอดเพื่อนมาตั้งนานไม่เคยได้คุยกันเลย ประมาณนี้ครับ
ก็คุยกันได้พักนึง ผมก็เข้านอนก่อนช่วงนั้นดึกแล้ว แล้วพี่เค้าก็ไม่ได้ตอบด้วย
ผมก็เลยไปนอน พอตื่นเช้ามาพี่เค้าทิ้งข้อความไว้ตอนประมาณ ห้าทุ้มกว่าๆ ครับ
ข้อความฟินมากเลย เค้าบอกว่าหน้าเด็กดีจัง ขอบคุณโฟมล้างหน้าที่ทำให้หน้าเด็ก ^_^
  ------------------------------------------------------------------
หลังจากนั้น ก็แลก Line กันครับ แล้วคุยนู่นคุยนี้กันไป
ก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ เพราะเค้าก็ไม่รู้ว่าผมแอบชอบพี่เค้า
เค้าอาจจะมองผมเป็นน้องด้วยแหล่ะ ผมอายุน้อยกว่าตั้ง 3 ปี
แต่พี่เค้าก็ไม่ได้มีท่าทางรังเกียจผมด้วยนะครับ แต่ผมก็เกรงใจแก
ไม่กล้าชวนคุยเยอะ เพราะเหมือนว่าพี่เค้าทำงานหนักด้วย T_T
 ------------------------------------------------------------------ 
ตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้าจีบพี่เค้าหรอกนะครับ เพราะไม่รู้ว่าพี่เค้ามีแฟนหรือเปล่า
เห็นในสถานะ Facebook ว่าโสด แต่ในอินสตาร์แกรมพี่เค้าถ่ายรูปคู่กับคนๆหนึ่งบ่อยๆ
ไม่รู้ว่าเป็นแฟนกันรึเปล่า ก็กลัวพลาดอะครับ ได้แค่แอบส่งๆ แล้วก็คุยเรื่องทั่วๆ ไป เท่านั้นเอง
  ------------------------------------------------------------------
แต่ก็รู้สึกดีครับ ที่ยังพอมีคนให้เราแอบชอบบ้าง ^_^
พอให้หัวใจกระชุ่มกระชวยไปวันๆ ทุกครั้งที่เห็นพี่เค้าโคตรมีความสุขเลย
นี่แหล่ะมั้งที่เค้าเรียกว่า "ความสุขของการแอบรัก"