วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เตะฝุ่นเพื่อความอยู่รอด

 
"เตะฝุ่นเพื่อความอยู่รอด"
 
บางที การที่ใครบางคนหายจากการติดต่อไป
ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากจะติดต่อกลับมา
เพียงแต่ว่า เขากำลังทำอะไรบางอย่างเพื่อใครสักคนอยู่
 
เช่นเดียวกันกับผม ที่หายไป ไม่ได้หายไปจากบล๊อกนะครับ
แต่หายไปทำภาระกิจเพื่อความอยู่รอดมา
เพราะอยู่แต่หน้าคอม รู้สึกจะไม่ได้อะไรมากมาย
เลยต้องไปเตะฝุ่นข้างนอกเพื่อความอยู่รอดของชีวิตครับ
 
คนอย่างเราๆ นี่ จะให้งอมืองอเท้าอยู่แต่บ้านมันก็ไม่ได้อะไรเลย
ดังนั้น เราต้องออกจากบ้านเพื่อไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง
หาอะไรให้ชีวิตสักหน่อย เผื่อมันจะเกิดอะไรดีๆ กับชีวิตบ้าง
ก็ถือว่า ได้อะไรมาเยอะครับ จากการที่หายไปในครั้งนี้
 
แต่สิ่งที่ได้มาจะทำประโยชน์ได้มากรึเปล่านั้น อันนี้ก็อีกเรื่องเนอะ
ทุกการกระทำมันต้องมีความเสี่ยง แต่การเสี่ยงครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
ฉันควรต้องทำใจหรือเปล่า ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ น้า
 
"ความสบาย
ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเราเองเสมอไปนะ"
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ยังไหวอยู่รึเปล่า

 
"ยังไหวอยู่รึเปล่า ?"
 
ผมมักพูดกับตัวเองบ่อยๆ ว่า "เฮ้ยไอ้โย เมิงยังไหวอยู่หรือเปล่าวะ"
พูดเพื่อให้ตัวเองมีแรงน่ะครับ เพราะทุกครั้งที่ถามตัวเอง
คำตอบที่ได้จากใจคือ "กูยังไหว แรงกูยังมี"
และนี่แหล่ะ คือพลังที่ทำให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้ต่อไป
 
ผมเคยนั่งคิด นอนคิด กลับหัวคิด คิดแล้วคิดอีก
อยากพัฒนาตนเองในหลายๆ ด้าน ให้ตัวเองมีความรู้เยอะ
แต่พอเอาเข้าจริง จะทำมันซะทุกอย่างก็คงเป็นไปไม่ได้เนอะ
เหมือนคนที่กำลังจับปลาอ่ะ จับสองมือก็หลุด
ถ้าจับมากกว่าสองมือ นี่คงไม่ได้อะไรสักอย่าง
ดังนั้นผมเลยคิดว่า คงต้องเลือกสักอย่างที่มันโดนใจสักที
 
และในระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็ไม่รู้ว่าโชคชะตาดลใจ
หรืออะไรก็แล้วแต่... ก็ถือว่าเป็นโชคดีแล้วกัน
ที่วันนี้ได้สิ่งที่พอจะมาช่วยทำให้มีแรงพัฒนาในด้านที่ผมถนัด
แต่ยังไม่รู้ว่ามันจะไปได้ตลอดรอดฝั่งไหม
สิ่งเดียวที่พอจะยืนยันได้ ก็คือความตั้งใจและความพยายามนี่แหล่ะ
 
ที่บอกในวันนี้ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากบอกว่า
วันนี้ คุณอาจจะเศร้า เสียใจ และร้องไห้ ให้กับบางสิ่งอยู่
แต่ในวันพรุ่งนี้ หรือวันต่อๆ ไป หลังจากที่น้ำตาแห้งเหือดหาย
สิ่งดีๆ ใหม่ๆ ก็จะมาหาคุณเองครับ ยืนยิ้มรับได้เลย
 
"จงคาดหวัง แต่อย่าคาดหวัง"
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไม่ได้หายไปไหน แค่ไปพักใจมา

"ไม่ได้หายไปไหน แค่ไปพักใจมา"
 
ต้องขอโทษด้วย ถ้าผมไม่ได้อัพบทความอะไรต่างๆ นานา
พอดีว่าช่วงนี้งานเข้าหลายทางมากครับ และมีกิจกรรมชีวิตหลายอย่าง
ก็เลยหายไปพักหนึ่ง พอมีเวลาพักก็เลยเอาไปพักกายพักใจ แล้วก็กลับมา
 
สัปดาห์หน้า ก็ไม่ค่อยมีเวลาอีกล่ะครับ แต่แน่นอน ผมไม่ลืมบล๊อกนี้แน่
ใครที่ติดตามผมอยู่ ก็อย่าเพิ่งลืมกันนะครับ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ จะแวะมาโพสแน่
 
ช่วงที่หายไปก็คิดได้ว่า บางทีเราไม่ต้องไปไขว่คว้าอะไรมากมาย
สิ่งที่มีอยู่ตรงหน้า นั่นก็เพียงพอต่อเราแล้ว จะไปหาอะไรมาเพิ่มอีก
เรามาแค่ตัวเปล่า และตอนจากไปก็ตัวเปล่า แล้วเราจะหาอะไรเพิ่มทำไม
 
คนเราถ้าไม่รู้จักคำว่าพอ มักจะก่อปัญหาให้กับตัวเองและคนรอบข้างเสมอครับ
ฝากไว้แค่นี้ เดี๋ยวคิดอะไรได้แล้วจะมาโพสใหม่
แล้วเจอกันนะครับ ที่รักของผม ^_^
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตหมาน้อยข้างถนน

 
"ชีวิตหมาน้อยข้างถนน"
 
สัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่คนทั่วไปชอบเลี้ยงไว้กับบ้าน
คงเป็นสัตว์น้อยน่ารักตัวใดไม่ได้เลย น้อกจากเจ้าหมาน้อย
สัตว์เลี้ยงที่แสนซื่อสัตย์ และรักเจ้าของ
 
ยิ่งตอนเล็กๆ อายุยังน้อยๆ ยิ่งน่ารัก
น่าจับมาอุ้ม เพราะตัวนิ่ม และขี้อ้อนของมัน
 
พอโตขึ้นมาหน่อยก็ดูสง่าและน่าเกรงขาม
ป้องกันคนแปลกหน้าที่จะมาป้วยเปี้ยนแถวบ้าน
 
แต่ชีวิตหมาน้อยแต่ละตัว ก็มีความต่างกันไป
หมาผู้ดีหน่อย ก็จะได้อยู่ดี กินดี
แต่หมาผู้ยากไร้ ก็ต้องละเห็ดละเหินกันต่อไป ไร้จุดหมาย
เพียงใช้ชีวิตเพื่ออยู่กิน และมีชิวิตต่อไปวันๆ
 
ผมเลี้ยงหมาไว้หลายต่อหลายรุ่น
แต่ละรุ่นก็มีประมาณ 2-3 ตัว แต่เกือบทุกตัวมีจุดจบของชีวิตไม่ค่อยต่างกัน
บ้านผมเป็นบ้านติดถนน รถบรรทุกวิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวัน จนถนนเสียหาย
แล้วบางวันก็จะมีคนแปลกหน้าวิ่งรถผ่านไปมาตลอดเวลา
บางวันก็ยืนอยู่หน้าบ้านและจ้องเข้ามาในบ้าน (น่ากลัวมาก)
 
และแน่นอนครับ ชีวิตหมาบ้านผมมันไม่ได้อยู่ดีกินดีหรอก
แต่ผมก็พอจะมีให้มันกินบ้าง ตามประสาคนพอมีพอกิน
 
แต่จุดจบของมัน ที่เกิดมาเป็นหมาที่อยู่ใกล้ถนน ก็คือ
ถ้าไม่ถูกรถชน ก็ ถูกวางยา ตาย ผมเจอแบบนี้มาหลายรุ่นแล้ว
บ้านผมไม่ได้ผูกหมาไว้กับบ้านหรอกครับ ปล่อยมันตามสบาย
 
บางคนมาในคราบของคนทั่ว ทำเป็นมาถามทาง
แล้วพออีกวันนึงมา ก็แวะมาให้อาหารหมา
รุ่นขึ้นหมาตาย น้ำลายฟูมปาก...
 
ส่วนรถบรทุกที่วิ่งตลอดทั้งวัน ความเร็วก็อย่าพูดถึงเลยครับ
ไม่เคยมีคันไหนที่วิ่งช้าเลยสักคัน วิ่งทีฝุ่นกระจายเต็มบ้าน
วันดีคืนดี สอยรถมอไซด์ข้างทางแล้วหนีหายไปตามข่าวที่เห็นทั่วไปก็มี
ซึ่งก็ตายฟรี เพราะจับคนขับไม่ได้ และไม่รู้ว่าคันไหนชนนั่นล่ะ
และน้องหมาก็มีสภาพไม่ต่างกัน
 
ที่เขียนมานี่ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่คิดถึงหมาน้อยเท่านั้นเอง
 
"สัตว์ก็มีชีวิต... คิดทำร้ายมัน ก็เท่ากับทำร้ายเจ้าของเช่นกัน"
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คิดถึงคนอีกฝั่งฟ้า

 
"คิดถึงคนอีกฝั่งฟ้า"
 
แม้เราจะอยู่ห่างไกล แต่ไม่ใช่ว่าใจเราจะห่างกัน
อย่างน้อยๆ ถ้าวันที่เหงาใจ เราแค่มองพระจันทร์
เธอจะรู้ว่า ฉันก็กำลังมองพระจันทร์ดวงเดียวกันกับเธอ
 
บางทีการอยู่คนเดียวก็ทำให้เราคิดอะไรไปไกล
ทั้งที่อะไรๆ ที่เราคิด มันยังไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้น
หรือถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง เราก็ห้ามมันไม่ได้หรอก
อะไรที่มันจะเกิด มันก็ควรต้องเกิด
 
ความรู้สึกอย่างนี้ บางทีก็ทำให้คิดถึงเพลงๆ หนึ่ง
ของคุณเอ็ม อรรถพล ที่ร้องไว้ว่า
 
"คนอีกฝั่งฟ้า คนที่ตัวฉันรักหมดใจ
คิดถึงคนไกล ที่อยู่อีกฝั่งฟ้า
อยู่ไกลอย่างนี้ จะมีใครหรือเปล่า
อีกนานไหมจะกลับ กลับมาแล้วเธอจะเปลี่ยนไปไหม"
 
"ฉันใช้ทุกคืน คิดถึงเธอตลอด
เหมือนว่าหัวใจที่มีของฉัน มีเพื่อรักเธอ..."
 
แล้วคนห่างไกลที่อยู่อีกฝั่งฟ้าล่ะ จะคิดถึงเราบ้างหรือเปล่า
บางทีอารมณ์เหงาๆ ก็พาใจเราเตลิดไปไกลเลย เฮ้อ
 
อาจจะยิ้มให้ใครบางคน อาจหัวเราะได้บางวัน
แต่เธอรู้ไหม ใจฉันห่วง....
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ถ้าย้อมสีผมจะเป็นยังไงน้า?

 
"ถ้าย้อมสีผมจะเป็นยังไงน้า?"
 
เชื่อไหมครับ ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ผมยังไม่เคยทำสีผมเลย
เลยไม่รู้รสชาติของการเปลี่ยนสีผม ว่ามันจะมีความรู้สึกยังไง
 
ช่วงประถม อย่าว่าแต่ทำสีผมเลยครับ ขอให้ยาวก่อนเถอะ
พอขึ้นมัธยมต้น คนอื่นย้อมกัน แต่เราไม่ได้ย้อม
เพราะต้องทำกิจกรรมตอนปิดเทอมเลยไม่มีเวลาไป
พอมัธยมปลาย ก็เรียน รด. อีก เกรียนติดหนังหัวครับ อดกันไป
เข้ามหาลัย เรียนครุศาสตร์ จบเลยครับ เราต้องมีระเบียบ
จนทุกวันนี้จบมาแล้วก็ยังไม่เคยย้อมผมเลย
 
ไม่รู้ว่าเวลาตัวเองย้อมผมแล้วมันจะเข้ากับหน้าตัวองรึเปล่า
ขนาดปกติ หน้าตาเราก็ อืมฮื้ม อย่าให้เอ่ยเลย
พูดแล้วมัน Sad สุดๆ ศัลยกรรมก็เอาไม่อยู่ครับ T_T
 
เดี๋ยวก่อนเถอะ รอมีโอกาสดีๆ จะจัดสักหน
ทำสีแดงสดๆ เลย เอาให้ชัดเจนไปเลย -*-
 
ปล. ย้อมผมครั้งนึงแพงเปล่า T_T
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ฉันยังไหว ฉันยังมีแรงให้ก้าวเดินต่อไป

 
"ฉันยังไหว ฉันยังมีแรงให้ก้าวเดินต่อไป"
 
มีคนบอกว่า แม้ว่าวันนี้เราจะทุกข์หรือเจอปัญหาหนักแค่ไหน
จงยิ้มสู้เข้าไว้ เพราะวันพรุ่งนี้อาจยิ่งกว่า
 
อืม... ก็จริงอย่างเค้าบอกนะ
บางทีความทุกข์มันก็โหมกระหน่ำเข้ามาในชีวิต
โดยที่เรายังไม่ทันตั้งตัวเลย
 
จนบางทีก็ทำให้ท้อ จนไม่อยากจะออกไปไหน
หรือบางทีก็ต้องแอบร้องไห้อยู่ในห้อง ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา
 
แต่เมื่อเวลามันค่อยๆ ผ่านไป
พลังแรงใจที่มีอยู่ในต้วก็ค่อยๆ ฟื้นฟู
และทำให้กลับมายืนได้อีกครั้งหนึ่ง
 
เหมือนเพลงพี่ปานที่บอกไว้ว้า
 
"หญ้าต้นหนึ่งถูกพายุกระหน่ำ ผ่านคืนบอบช้ำ ล่วงเข้าวันใหม่
ไม่ใช่มันแค่เพียงไม่ยอมตาย ซ้ำรากใบมันยิ่งแกร่งกว่าเมื่อวาน"
 
คนเรายิ่งผ่านความทุกข์ ยิ่งแข็งแกร่ง
 
และเมื่อเราเจอความทุกข์ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่
ให้บอกตัวเองไว้เสมอว่า
 
"ไม่เป็นไร ฉันยังไหว ฉันยังมีแรงให้ก้าวเดินต่อไป"
 
ก้าวผ่านความทุกข์ไปด้วยกันนะ
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เหมือนว่าโลกนี้มีแค่เราคนเดียว

 
"เหมือนว่าโลกนี้มีแค่เราคนเดียว"
 
เมื่อเราผ่านวันเวลามาช่วงหนึ่งแล้ว
เราจะพบว่า อะไรหลายๆ อย่างมันไม่เหมือนเดิม
มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเลย
 
จากที่เคยมีเพื่อนมากมาย ให้คุย ให้เล่นด้วยกัน
เมื่อยิ่งเรียนสูงขึ้น อายุเริ่มมากขึ้น จำนวนเพื่อนยิ่งสวนกับเวลา
เพื่อนเริ่มหายไปทีละคนสองคน และบางคนจากที่เคยรู้จักกัน
ก็กลายเป็นคนแปลกหน้า บางคนก็แค่ยิ้มให้กันแล้วเดินผ่านไป
 
นี่แหล่ะมั้ง ที่เค้าเรียกว่าระยะเวลาสร้างความต่าง
ระยะห่างสร้างความไม่คุ้นชิน และเดี๋ยวก็คงลืมเลือนกันไป
 
เมื่อลองกลับไปเดินผ่านจุดๆ เดิมที่เราเคยไป
ตอนนี้เหลือแค่เพียงคนแปลกหน้า ที่เดินสวนกัน
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จัก เพราะยุคของเรามันหมดไปแล้ว
 
มันเหมือนกับว่า เราอยู่ตัวคนเดียวยังไงก็ไม่รู้
เหมือนโลกนี้มีแค่เราเพียงคนเดียว
 
มันรู้สึกว่า เพิ่งเริ่มเข้าใจความเหงาก็วันนี้เอง
 
เพราะระยะห่าง และเวลานี่แหล่ะ
ที่ทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงไป
 
"อย่าให้ใครบางคนหายไปจากชีวิต
เพียงเพราะเราไม่ได้ติดต่อเค้าเลย"
 
ยิ่งหายไปนาน ยิ่งต่อกันไม่ติด
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แสงและเงา

 
"แสงและเงา"
 
ในการวาดรูปแต่ล่ะครั้ง ต้องมีการคิดก่อนว่าจะวาดอะไรยังไง
แต่ถ้าไม่คิดก่อนแล้ววาดไปเลย ก็จะได้ภาพที่ต่างออกไป
 
แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ภาพสมบูรณ์และดูเป็นมิติมากขึ้น
นั่นก็คือ แสงและเงานั่นเอง
 
แสงและเงามักจะอยู่ตรงข้ามกัน
ถ้าแสงมาทางซ้าย เงาจะอยู่ทางด้ายขวา
แต่ถ้าแสงมาทางด้านขวา เงาจะอยู่ท้างด้านซ้าย
 
แสงและเงามันก็เปรียบเสมือนความต่างของหลายๆ สิ่งนั่นล่ะ
ถ้าขาดสิ่งใดไป สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นมาไม่ได้
ถ้าขาดแสงไป เงาก็ไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้
ถ้าเงาขาดแสงไป มันก็เกิดความไม่สมบูรณ์
 
ดังนั้น ถึงทั้งสองอย่างมันจะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกัน
แต่มันก็ขาดกันไม่ได้ เพราะมันเกิดมาคู่กันในความต่าง
 
ในชีวิตคนเราก็เช่นเดียวกันครับ
ฐานะคนเราอาจจะต่างกัน แต่เราอาจจะเกิดมาคู่กันก็ได้ใครจะรู้
เขารวย แต่เราจน ตรงข้ามกันสุดๆ แต่ใช่ว่าจะคู่กันไม่ได้
มันขึ้นอยู่กับว่า "คุณเชื่อมั่นในความต่างรึเปล่า?"
 
"ต่างกัน ใช่ว่าจะไม่ได้คู่กัน
เพราะของบางอย่าง ถึงมันจะต่างกัน แต่มันก็อยู่ด้วยกันได้"
 
-----------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อยากมีกล้าม (พยายาม)

 
"อยากมีกล้าม (พยายาม)"
 
อย่างที่บอกไว้ตอนโน้นครับ ว่าเพื่อนแต่ละคนหุ่นดีมีกล้าม
แต่ไอ้เรานี่ผอมลงพุง ซึ่งดูและไม่น่ามองสักเท่าไหร่
มันก็คงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างละ
 
แล้วจะเปลี่ยนแปลงตัวเองนี่ จะทำยังไงได้บ้างละ ?
 
จากที่อ่านๆ ตามหนังสือหลายๆ เล่มมา
ก็มีวิธีการที่หลากหลายแต่คล้ายกันนะครับ
แต่โดยรวมๆแล้วคือ คุณต้องมีวินัยในการออกกำลังกายด้วยนะ
 
อย่างแรกที่คิดว่าจะทำคือ เราเป็นคนผอมเลยต้องกินอาหารให้มากขึ้น
คือ กินให้มากมื้อขึ้น ซึ่งต้องเน้นคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน
เพื่อเน้นสารอาหารให้เอาไปสร้างกล้ามเนื้อ
 
อาหารที่้เน้นก็น่าจะเป็น...
โปรตีน คือ อกไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา ไข่ต้มสุก นมถั่วเหลือง
คาร์โบไฮเดรต คือ ข้าวสวย ขนมปัง กล้วยหอม เผือก มัน เป็นต้น
 
อย่างที่สองคือ การออกกำลังกายนี่แหล่ะ
ทีนี้ต้องดูว่าเราจะเน้นกล้ามในส่วนไหน
อย่างผมอยากมีตรงต้นแขน อก และ หน้าท้อง
ดังนั้นก็จะมีท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับตรงส่วนนั้นๆ ครับ
 
อย่างต้นแขน ผมก็จะยกนัมเบลหลายๆ เซต เซตละหลายๆ ที
ซึ่งต้องยกให้พอเหมาะพอดี ไม่งั้นกล้ามเนื้อฉีกแน่ๆ อ่ะครับ
ส่วนกล้ามท้อง ก็คงต้องเป็นท่าเบื้องต้นซึ่งก็คือ การซิทอัพนั่นเอง
 
เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง ก็ได้เวลาเตรียมตัว เตรียมใจ
เตรียมความพร้อมและมีวินัยในการปฏิบัติแล้วครับ
 
หวังว่าในอนาคต รูปร่างผมจะเปลี่ยนแปลงบ้าง ^_^
 
ท้องไว้ "สู้เว๊ย!!!"
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ยิ่งวาด ยิ่งเก่ง

 
"ยิ่งวาด ยิ่งเก่ง"
 
คือจริงๆ แล้ว Blog นี่ที่สร้างขึ้น เพื่อต้องการวาดภาพลงเป็นผลงานของตัวเอง
แต่พอทำไปทำมา ก็วาดเป็นเรื่องเป็นราวไปบ้าง ทำเป็นนิยายการ์ตูนบ้าง
ก็มีความสุขกับการวาดกันไป แม้ฝีมือจะไม่ได้จัดจ้านเท่าเมื่อก่อน
 
ต้องสารภาพตามตรงว่า ฝีมือตกไปกว่าช่วงมัธยมต้นมาก
ช่วงนั้น มีวิชาเลือกเกี่ยวกับการศิลปะ การวาดลายเส้น วาดภาพเหมือน
การแกะสลัก การลงสี การตกแต่ง ช่วงนั้นก็เน้นเรียนเรื่องนี้หมด
 
แต่พอขึ้นมัธยมปลาย เรื่องที่เรียนมาก็ค่อยๆ หายไป เพราะไม่ค่อยได้ใช้
แล้วพอมาฟื้นฟูอีกที ก็เหมือนกับเริ่มต้นใหม่ที่จุดๆ หนึ่ง ที่ไม่ใช่จุดต่ำสุด
และกว่าจะพัฒนาให้เป็นแบบเดิมได้ ก็คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
 
เหมือนการวาดภาพในครั้งนี้ล่ะครับ อาศัยความจำว่าวาดยังไง
อาศัยการวาดบ่อยๆ วาดให้มันชินมือ เดี๋ยวก็คงวาดได้เอง
แค่ปากกาด้ามเดียว กับแผ่นกระดาษว่างๆ สักแผ่น
คุณก็สามารถวาดภาพตามจินตาการของคุณได้แล้ว ลองดูสิครับ
 
"วาดภาพไม่ใช่เรื่องยาก
แค่มีปากกากับกระดาษ ก็สามารถวาดได้แล้ว"
 
อย่าลืมนะครับ ยิ่งวาด ยิ่งเก่ง ยิ่งทำ ยิ่งชำนาญ นะครับ ^_^
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไออุ่นจากอ้อมกอด

  
"ไออุ่นจากอ้อมกอด"
 
ช่วงนี้หน้าฝนเข้าหน้าหนาว
คนเหงาคงพึ่งผ้าห่มอย่างเดียวไม่ได้เนอะ
คงต้องพึ่งอ้อมกอดจากคนข้างๆ สักหน่อย
แต่คนเหงา จะมีคนข้างๆ ให้กอดรึเปล่าน้อ ?
 
รู้ไหมว่า การกอดทำให้อุณหภูมิของหัวใจสูงขึ้น
เนื่องจากหัวใจได้ทำงานเร็วขึ้น และสูบฉีดเลือดได้ไวขึ้นด้วยนะ
ทำให้เวลากอดจะรู้สึกอบอุ่น อีกทั้งการกอดกัน
ก็ทำให้ร่างกายของทั้งสองฝ่าย ได้ส่งไออุ่นถึงกันด้วย
 
เห็นไหมว่า การกอดกัน นั้นมีประโยชน์ เรามากอดกันดีกว่า
 
กอดกับพ่อแม่ พี่ น้อง เพื่อน หรือคนรัก ก็ได้ความรู้สึกที่ต่างกัน
ไม่เชื่อลองกอดดูสิครับ 
 
"มีใครพอจะรับอ้อมกอดจากคนเหงาสักคนไหมครับ ^_^"
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

ในวันที่หมดหวัง กำลังใจสำคัญที่สุด

 
"ในวันที่หมดหวัง กำลังใจสำคัญที่สุด"
 
ผมเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้าผมได้งานหรืออยู่ในช่วงที่มีความสุข
ผมจะมาเขียนเรื่องราวที่ให้กำลังใจกับคนที่กำลังหมดหวังหรือสิ้นหวัง
เพราะช่วงที่หมดหวังหรือสิ้นหวังนั้น กำลังใจมันสำคัญที่สุด
 
ทำไมถึงต้องให้กำลังใจ ?
 
คุณรู้หรือไม่ว่า คนที่กำลังอยู่ในช่วงที่เลวร้าย หัวใจกำลังอ่อนแอ
ความสิ้นหวังจะทำให้คิดอะไรต่างๆ ไปเรื่อยเปลื่อย จนไม่สามารถหยุดได้
ยิ่งถ้าอยู่คนเดียว บางคนอาจนั่งร้องไห้ทั้งคืนเลยก็ได้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้
 
คนเหล่านี้มักต้องการใครสักคน เป็นที่ระบายความรู้สึกของตนเอง
ที่มันอัดอั้นอยู่ในใจ แต่จะหาคนที่ให้ระบายก็ยากเหลือเกิน
บางคนอาจไปโพสในกระทู้ต่างๆ ตามเว็บ บางคนก็เขียนใส่ในกระดาษ
ถึงมันจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคิดมันหายไปหรอก...
 
ดังนั้น เมื่อเขาไม่มีที่ระบาย ก็กลายเป็นความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจ
และจะทำให้เกิดความเครียด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการคิดสั้นได้
 
แล้วจะให้กำลังใจพวกเขาได้อย่างไร ?
 
มันก็พูดยากนะ ว่าจะให้กำลังใจพวกเขาได้อย่างไร
เพราะแต่ละคนก็มีสาเหตุที่แตกต่างกันไป
บางคนก็อาจผิดหวังจากความรัก ครอบครัว ธุรกิจ ชีวิต เพื่อน ฯลฯ
แต่มีคำพูดหนึ่งที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ คือ
 
"สู้ๆ นะ เราเป็นกำลังใจให้"
 
คนที่ได้ยินคำนี้ ผมว่าอย่างน้อยๆ ก็ทำให้เค้ารู้ว่า
เรา ยังเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ยังคอยเป็นกำลังใจให้เค้าเสมอนะ
แม้ในวันที่โลกลืมเขา แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมีเราที่ไม่เคยลืม
 
ดังนั้น ถ้าคุณเห็นใครที่โพสข้อความประมาณว่าสิ้นหวัง หรือหมดกำลังใจ
ก็อย่าไปว่า หรือตอกย้ำเค้าเลย เพราะเค้าก็แค่ต้องการอยากระบายบ้าง
ยิ่งถ้าเราไปโพสว่าเค้า หรือบอกว่า "จะมาโพสทำไมที่นี่"
นั่นเท่ากับว่า เป็นการปิดกั้นการระบายความรู้สึก และตอกย้ำความเจ็บปวดให้เค้าอีก
 
"ปล่อยให้เค้าทำในสิ่งที่เค้าต้องการบ้างเถอะ
เพราะสิ่งที่เค้าทำ อาจเป็นสิ่งเดียวที่เค้าทำได้ ก็ได้"
 
จงอย่าลืมว่า
 
"ในวันที่หมดความหวัง กำลังใจสำคัญที่สุด"
 
สู้ๆ นะครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณจะสิ้นหวังในเรื่องใด
ผมเป็นกำลังใจให้คุณอยู่นะ เพราะผมก็เป็นคนหนึ่ง
ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับคุณ มาสู้ไปพร้อมๆ กันกับผมนะ
 
"สู้โว๊ย!!!"
 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

ก้ามปูบิ๊กๆ

 
"ก้ามปูบิ๊กๆ"
 
ผมแอบเห็นเพื่อนแต่ล่ะคนของผม หุ่นดีกันทั้งนั้น
แต่พอหันมามองหุ่นตัวเอง เอ่อ... ผอมยังกับไม้เสียบลูกชิ้นปิ้ง
และดันมีพุงยื่นออกมาอีก อย่าให้เห็นตัวจริงเลย มันไม่น่าดูสักนิด
 
คิดไปคิดมา ก็อยากลองเปลี่ยนหุ่นตัวเองดูบ้าง
แต่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเท่าไร กว่าจะหุ่นดีมีกล้ามกับเขาบ้าง
เผื่อมันจะช่วยดึงดูดสายตา ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสนใจได้บ้าง
 
แต่ถ้าให้ไปเข้าฟิตเนส หรือเสียตังค์ซื้อโปรตีนมากิน
เงินในกระเป๋าก็ไม่ค่อยจะมี สงสัยก็คงต้องพึ่งวิธีพอเพียงบ้างละ
หยิบนู่นหยิบนี่มาใช้แทนที่ออกกำลังกาย
คาดว่าไม่นานอาจจะพอมีกล้ามกับเขาบ้าง
 
"อยากมีกล้าม ก็ต้องฝึกฝน ต้องขยัน"
 
ท่องไว้ในใจ "สู้โว้ย"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

เคยไหม... ใช้เสียงเพลงบอกความรู้สึก

 
"เคยไหม... ใช้เสียงเพลงบอกความรู้สึก"
 
ความรู้สึกที่มันอยู่ข้างใน บางทีก็ไม่สามารถบอกออกมาได้ตรงๆ
ไม่สามารถสื่อออกมาได้ด้วยคำพูด เพราะถ้าฟังอาจจะดูว่ามันเว่อร์เกินไป
แล้วถ้าพูดไม่ได้ จะสื่อความรู้สึกออกไปยังไงล่ะ?
 
มีคนบอกว่าการกระทำ มันก็สามารถบอกความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูด
แต่ถ้าในช่วงที่เราแอบรักใครสักคน ถ้าเราเดินไปจับมือเค้า
เค้าจะไม่มองว่าเราเป็นคนโรคจิตหรอ นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าคิดนะ
แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำยังไงละ พูดไม่ได้ กระทำก็ไม่ได้
 
มีอีกทางที่สามารถจะสื่อออกไปให้เธอได้รู้ได้
ทางนั้นก็คือ สื่อออกไปเป็นบทเพลงนั่นเอง
เพลงบางเพลง มีความรู้สึกที่เราต้องการบอกให้เค้ารู้อยู่
ซึ่งเหมือนกับว่า เพลงๆ นั้น แต่งมาเพื่อเรารึเปล่า ทำไมมันตรงจัง
 
จากประสบการณ์ตรง ผมก็เคยใช้เพลงในการบอกความรู้สึกนะ
แต่ผลที่ได้ก็ทำให้เค้ารู้ว่าเราชอบเค้า แต่เค้าก็ไม่ได้ชอบเราหรอก
เพราะเค้ามีคนที่ชอยอยู่แล้ว แต่เค้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไรผมนะ
แถมยังมาคุยหรือเล่มกับผมมากขึ้นด้วย
 
ผมว่าบางที ก็ใช้เพลงบอกรัก มันก็โรแมนติกดีนะ
ร้องเพลงให้เค้าฟัง หรือส่งเพลงให้เค้าฟัง
ถ้าความรู้สึกมันตรงกัน คุณก็อาจจะได้เป็นเป็นแฟนกับเค้าก็ได้
แต่ถ้ามันไม่ใช่ ก็ยังดีนะ ยังดีที่เราได้บอกเค้า ดีกว่าเราไม่ได้บอกเค้าเลย
 
"ลองใช้บทเพลงสื่อความรู้สึกดูสิ
บางทีอาจจะง่ายกว่าเดินเข้าไปแล้วบอกรักตรงๆ ก็ได้"
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ


วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

เหนื่อยใจแค่ไหน... สุดท้ายก็ยังเป็นของเธอ

 
"เหนื่อยใจแค่ไหน... สุดท้ายก็ยังเป็นของเธอ"
 
เรื่องของความรัก มีมุมมองให้เขียนมากมายหลายเรื่อง
เพราะความรักนั้น มันไม่เคยมีมุมมองที่ตายตัว
หลายคนอาจเคยผ่านความรักมามากมายหลายรูปแบบ
หลายครั้งที่ได้เจอ ก็มักจะได้เรื่องราวเก็บมาเป็นความทรงจำส่วนหนึ่ง
ซึ่งมันก็ไม่เคยจางหายไป ยิ่งเรื่องไหนยิ่งเจ็บ เรื่องนั้นยิ่งจำ
 
แต่สำหรับเรื่องที่จะเขียนต่อไปก็คือ "การทะเลาะกัน"
ช่วงแรกๆ ที่คบกันของคู่รักหลายๆ คู่ อาจจะมีความเห็นที่คล้ายๆ กัน
ก็เลยไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเท่าไหร่ หรืออาจจะมีบ้าง แต่ก็ยอมๆ กันไป
แต่พอหมดช่วงโปรโมชั่นเมื่อไหร่ นั่นแหล่ะ ปัญหามันมักจะเกิดขึ้นมาทันที
 
เรื่องบางเรื่องอาจจะเล็กน้อย แต่มันก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
และพอเกิดเรื่อง ก็ต้องมาง้องอนกัน ซึ่งถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใจอ่อน
เรื่องก็จะจบได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ายังแข็งข้อต่อกันทั้งคู่
ก็คงต้องเหนื่อยกับการง้องอนกันต่อไปอีกนานไม่จบไม่สิ้น
 
แล้วถ้าถามว่า "ไม่เหนื่อยบ้างหรอ ที่ต้องทะเลาะกันอยู่แบบนี้"
ผมว่า คำตอบที่ได้จากคนทั้งสองคน ก็น่าจะเป็น "เหนื่อย"
แต่จะเหนื่อยยังไงก็ตาม เค้าทั้งสองคนก็ยังคงเป็นของกันและกันอยู่ดี
 
มีคำกล่าวที่ว่า "ยิ่งทะเลาะกัน ยิ่งรักกัน ยิ่งเข้าใจกัน"
มันก็อาจจะเป็นจริงก็ได้มั้ง ถ้ามองในแง่ที่ว่า
พอเรารู้ว่าเค้าไม่ชอบให้เราทำอะไร เราก็จะไม่ทำสิ่งนั้น
รวมถึง ถ้าเค้ารู้ว่าเราไม่ชอบอะไร เค้าก็คงจะไม่ทำเหมือนกัน
 
แบบนี้สิ ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ยืดยาว ความรักมันก็ต้องมียอมกันบ้าง
บางที ถ้าความผิดเล็กๆ น้อยๆ ที่เค้าได้ทำ ถ้ามันพอให้อภัยได้
ก็ให้อภัยเค้าเถอะ เค้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับตัวเราจนเกินไป...
 
บางที คนรักของเราอาจคิดในใจเวลาที่ทะเลาะกันว่า
 
"ถึงเธอจะทำให้เหนื่อยใจแค่ไหน
แต่ฉันก็ยังเป็นของเธอเสมอนะ"
 
ก็ได้
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

หายใจ...ไปวันๆ

 
"หายใจ...ไปวันๆ"
 
"ในชีวิตคนทุกคน ย่อมจะมีช่วงชีวิตเลวร้าย
ขอใครเพียงสักคน อยู่คอยช่วยเป็นกำลังใจ"
เนื้อเพลงท่อนหนึ่งจากเพลง ห่วงหา - มัม ลาโคนิค
 
พอฟังเพลงนี้ไปสักพัก ไม่รู้ว่าฟิลลิ่งมันมาจากไหน
นั่งคิดตามเนื้อเพลงตั้งแต่ต้นจนจบ เอ่อ... มันแต่งมาเพื่อนเรารึเปล่าว๊า
 
ช่วงนี้ตั้งแต่เรียนจบมา ก็รู้สึกโหวงๆเหวงๆ หาคนคุยด้วยยากว่าตอนเรียนอีก
ไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด กินข้าวคนเดียวมาหลายเดือนละ
คนนี้เดินผ่านไป คนนั้นเดินผ่านมา แต่ก็ไม่เคยแวะมาทักสักคน
เหมือนเราเป็นมนุษย์ล่อยหน ที่ไม่มีใครมองเห็นซะงั้น
 
ชีวิตหลังจบการศึกษา มันรู้สึกโดดเดี่ยวยังไงไม่รู้เนอะ
คนที่เคยพบหน้ากันเกือบทุกวัน ก็หายไป
หอพักที่เคยมีเพื่อนมาเล่นกันเต็มห้อง ก็ว่างเปล่า มีเรานั่งอยู่คนเดียว
ร้านเกมส์ที่เคยไป ตลาดนัดที่เคยเดิน ห้องสมุด ร้านหนังสือ สวนสาธารณะ
ตอนนี้ถ้าไป ก็คงเหงาน่าดูเลย และคงเหงามากๆ ด้วย
 
คิดถึงเพื่อนๆ อ่ะ คงไม่มีโอกาสได้เจอกันแบบครบองค์ประชุมอีกละ
รู้อย่างนี้ ตอนช่วงที่อยู่ด้วยกัน น่าจะทำอะไรที่สร้างความทรงจำเยอะๆนะ
จะได้มีเรื่องราวให้คิดถึงกันตลอด มีรูปภาพคอยย้ำเตือน
แต่ตอนนี้แค่คิด มันก็คงสายไปแล้ว...
 
ยิ่งตอนนี้ เหมือนกับหายใจทิ้งไปวันๆ
ตื่นเช้าไปทำงาน กับสิ่งรอบข้างที่ไม่คุ้นชิน
กลับจากที่ทำงานก็ล้มตัวลงนอน เปิดคอมเช็คนู่นเช็คนี่
โพสบทความที่อยากโพส แอบดีใจเมื่อเห็นคนกดแชร์ กด Like
ได้เท่านี้จริงๆ นี่แหล่ะมั้งชีวิตคน มีแรงก็ต้องสู้กันต่อไป
 
"มัวแต่นั่งคิดถึงอดีต แล้วพรุ่งนี้จะมีอนาคตรึเปล่า?" 
------------------------------------------------------------
ฝากติดตาม Twitter ด้วยนะครับ